9 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันทั้งกายและใจพร้อมลุยทุกสถานการณ์

Last updated: 11 ต.ค. 2565  |  2171 จำนวนผู้เข้าชม  | 

9 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันทั้งกายและใจพร้อมลุยทุกสถานการณ์

ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนสิ่งต่างๆรอบตัวแปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว หากร่างกายไม่แข็งแรงมากพอย่อมจะมีผลเจ็บไข้ได้ป่วยได้บ่อยขึ้น วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางกายและใจกับ 9 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันทั้งกายและใจพร้อมลุยทุกสถานการณ์ มาแบ่งปันกัน ดังนี้

     1. เลือกอาหารที่เหมาะสมและดื่มน้ำให้เพียงพอ
     การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสัดส่วนและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญดั่งประโยคที่ว่า you are what you eat คุณกินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เลือกกินสิ่งดีๆมีประโยชน์ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักผลไม้ จะช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้นรวมถึงการดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้น้ำช่วยนำพาสารอาหารเข้าสู่เซลล์ร่างกายและช่วยขับถ่ายของเสียออก ควรดื่มน้ำให้ได้ 8 – 10 แก้วหรือ 2 – 3 ลิตรต่อวันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดตัวและกิจกรรมที่ทำ



     2. อยู่ในที่อากาศดีๆสลับกันไปบ้าง
     หาโอกาสไปอยู่ในที่อากาศดีๆ เช่น ตามป่าเขาที่เต็มไปด้วยมวลแมกไม้ หรือ ริมทะเล เพื่อเติมออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายสร้างความแข็งแรงให้กับปอด เมื่อปอดแข็งแรงย่อมจะเป็นการดีในการช่วยเผาพลาญสารอาหารให้ร่างกายนำไปใช้เต็มที่ มีส่วนเสริมภูมิคุ้มกันต่อร่างกายได้เป็นอย่างดี หรือจะเข้มข้นไปกว่านั้นเลือกทำกิจกรรม อาบป่า เพื่อช่วยบำบัดกาย บำรุงใจให้ฟื้นฟูได้ดีขึ้นมามากยิ่งขึ้น



     3. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
     ปัจจัยเสี่ยงในที่นี่เป็นภัยร้ายที่เรานำเข้าสู่ร่างกาย เช่น เหล้า บุหรี่ สารพิษต่างๆจากเหล้าและบุหรี่ เมื่อสะสมในระยะยาวจะมีผลต่ออวัยวะภายในไม่ว่าจะเป็น ปอด ตับ หัวใจ จะส่งผลให้อัตราการเสื่อมของอวัยวะเร็วขึ้นมีผลต่อการเจ็บป่วยและเสียชีวิต ที่สำคัญคือ เมื่ออวัยวะต่างๆเสื่อมเร็วย่อมมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันแน่นอน อยากรู้ว่าสูบบุหรี่แล้วปอดจะเป็นอย่างไรคลิ๊กที่นี่



     4. นอนหลับให้เพียงพอและมีคุณภาพ
     การนอนเป็นสิ่งสำคัญอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง/วัน การอดนอนมีผลให้ร่างกายอ่อนแอ เพราะการนอนน้อยมีผลกับการสร้าง growth hormone ซึ่งมีส่วนช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหล่อ ไม่กินอาหารก่อนนอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมงอาจจะทำให้เรานอนหลับไม่สนิท ท้องอาจจะอืด รวมถึงหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเหล้าก่อนนอนโดยเฉพาะบุหรี่จะมีสารนิโคตินกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวมีผลให้อาจจะนอนไม่หลับ อยากนอนหลับให้ดีมีคุณภาพลองเข้าไปอ่านต่อที่นี่ 



      5. หมั่นตรวจเช็คสุขภาพด้วยตัวเองเบื้องต้นและตรวจประจำปีโดยตรง
      การตรวเช็คร่างกายด้วยตัวเองง่ายสุด คือ การสังเกตอาการผิดปกติในร่างกาย มีก้อนเนื้อแปลกๆเกิดขึ้นในร่างกายหรือเปล่า หมั่นเช็คสม่ำเสมอ และการไปตรวจที่โรงพยาบาลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อเช็คร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง รู้ก่อนแก้ไขได้เร็วกว่า ดีกว่ารู้ทีหลังก็สายไปเสียแล้ว


      6. ออกกำลังกายเป็นประจำ
      การออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีจะช่วยให้การทำงานของหัวใจ ระบบหายใจและระบบกล้ามเนื้อดีขึ้น เลือกรูปแบบให้เหมาะสมกับวัยและสภาพร่างกายจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ลองศึกษาวิธีออกกำลังกายอย่างไรให้เหมาะกับตัวเองที่นี้ 



       7. จัดการกับความเครียดให้ดี
       ความเครียดก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ เครียดจาการงาน เครียดจากครอบครัว เครียดจากหลายๆอย่างรอบตัว ความเครียดจะทำให้เราหลังสารที่เรียกว่า คอร์ติซอล ซึ่งมีผลต่อการลดลงของระดับน้ำตาลในเลือดส่งผลให้อยากรับประทานอาหารมากขึ้น และเมื่อรับประทานอาหารเยอะๆ อาจนำไปสู่สภาวะอ้วนซึ่งจะนำพาโรคอื่นๆตามมา และนอกจากนี้ความเครียดยังทำหัวใจเต้นเร็วและแรงส่งผลต่อความดัน และอาจนำพาโรคภัยต่างๆตามมา ฉะนั้นควรหาวิธีการจัดการความเครียดให้ดี เช่น ตั้งแต่การมีสติ หางานอดิเรกที่ชอบทำ ปล่อยวางบ้าง เข้าใจธรรมชาติของสิ่งต่างๆที่อยากต่อการควบคุม ผ่อนคลายบ้าง



         8. บริหารความสัมพันธ์ให้เยี่ยม
         มีงานวิจัยที่น่าสนใจของ Harvard Study of Adult Development การศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาของผู้ใหญ่จากมหาวิทยาลัย Harvard ที่ใช้ระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้าทั้งสิ้น 75 ปีพบว่า คำตอบที่แท้จริงของการมีความสุขระยะยาว คือ ความสัมพันธ์ (ข้อมูลจากเว็บ https://www.winnews.tv/news/20008) ว่ากันว่ามนุษย์ คือ สัตว์สังคม สิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้อย่างมีความสุขมักเชื่อมโยงมาเกี่ยวข้องกับเรื่องความสัมพันธ์ ตั้งแต่เช้าจนค่ำเราได้มีความสัมพันธ์กับคนรอบตัวทุกวัน หากความสัมพันธ์เป็นไปในทางบวกย่อมจะนำพาความสุขมาให้เรา แต่หากความสัมพันธ์ไม่ดีก็จะนำพาความเครียดมาสุมรุมที่เรา ดังนั้น การบริหารความสัมพันธ์ให้ดีเป็นแนวทางหนึ่งที่สร้างภูมิคุ้มกันทางใจได้เป็นอย่างดี



            9. รู้จักการให้และแบ่งปันยกระดับจิตใจ
            ในยามที่เราทุกข์และจมอยู่กับตัวเอง ลองพาตัวออกไปเจอโลกข้างนอกเราจะพบว่ายังมีคนที่ทุกข์กว่าเราแย่กว่าเราอีกมากมาย จากนั้นเราลองหยิบยื่นสิ่งที่เราพอมีเพื่อเติมไปยังในสิ่งเหล่านั้นขาด แม้จะดูเล็กน้อยสำหรับเราแต่มันยิ่งใหญ่สำหรับคนที่ขาดอยู่ จริงๆแล้วการแบ่งปันนั้นคือการเยียวยาจิตใจตัวเองและเมื่อจิตใจดีขึ้น เรายังมีการแบ่งปันอยู่จะยิ่งกลายเป็นภูมิคุ้มกันทางใจมากขึ้นเรื่อยๆมากพอที่จะป้องกันปัญหาต่างๆที่โอบล้อมเข้ามาได้เป็นอย่างดี

          สมดุลของกายและใจคือพื้นฐานสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันฉะนั้นควรใส่ใจในการดูแลสุขภาพในเรื่องการ กิน อยู่ ออกกำลังกาย รวมถึงการรักษาใจให้ดีจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเราเข้มแข็งพร้อมต่อสู่กับทุกสถานการณ์ให้ผ่านไปด้วยดีแน่นอน โครงการฯขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้